Thursday, March 18, 2010

วิทยุชุมชนเห็นพ้อง หลังออก3มาตรการควบคุม

วิทยุชุมชนเห็นพ้อง หลังออก3มาตรการควบคุม

กทช. ออก3 มาตรการแก้ไขปัญหาวิทยุชุมชน ด้านปธ.คณะทำงานด้านกิจการวิทยุกระจายเสียง ชุมชนฯ เผยมาตรการคนทำรายการจริงยอมรับได้...  นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช.ในฐานะเลขาธิการคณะอนุกรรมการกระจายเสียงวิทยุและโทรทัศน์  กล่าวว่า หลังจากได้เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการประสานความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาสื่อสิ่งพิมพ์และวิทยุชุมชน ที่ก่อตั้งโดยสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการฯ ได้ออกมาตรการเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาวิทยุชุมชนที่มีเนื้อหาปลุกระดมชุมชน และมีเนื้อหาที่หมิ่นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากาษัตริย์ทรงเป็นประมุขสำหรับมาตรการในการแก้ไขปัญหาวิทยุชุมชนที่มีสิทธิทดลองออกอากาศชั่วคราว ปัจจุบันได้ให้บริการอยู่จำนวน 6,600 สถานีนั้น คณะอนุกรรมการฯ จะดำเนินการแจ้งหนังสือเวียนภายใน 1-2 วันนี้เพื่อขอความร่วมมือ และกำชับวิทยุชุมชนที่ทดลองออกอากาศชั่วคราว ให้ยึดถือปฎิบัติ และไม่ฝ่าฝืนเงื่อนไข 3 ข้อในหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตประกอบกิจการบริการชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียง) ประกอบด้วย จะต้องไม่ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากาษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐทั้งนี้ ผู้ยื่นความประสงค์ต้องบันทึกรายการที่ได้ออกอากาศไปแล้วทุกรายการไม่น้อยกว่า 30 วัน เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ และผู้ยื่นความประสงค์ยินยอมปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนดไว้ทุกประการ หากผู้ทดลองออกอากาศชั่วคราวฝ่าฝืน คณะอนุกรรมการฯ จะสั่งพัก หรือเพิกถอนสิทธิการทดลองออกอากาศ และถ้าในกรณีที่มีเนื้อหาที่ออกอากาศขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือความมั่นคง คณะอนุกรรมการฯ จะดำเนินการจัดส่งข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาต่อไปส่วนมาตราการสำหรับผู้ที่ไม่มีสิทธิทดลองออกอากาศในลักษณะชั่วคราว หรือวิทยุชุมชนที่ไม่ได้ลงทะเบียนเพื่อขอทดลองออกอากาศ ขณะที่ มีอยู่กว่าพันสถานีนั้น คณะอนุกรรมการฯสามารถดำเนินการภายใต้มาตรา 53 พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เพื่อดำเนินสนับสนุนข้อมูล หรือจัดส่งข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญาได้ทันที“ขณะนี้มีมาตรการกำกับดูแล ถ้ามีเนื้อหาล้มล้าง ก็จะส่งเรื่องให้ตำรวจให้ดำเนินการได้โดยตรง ทั้งนี้ ประสานความร่วมมือกับหลายหน่วยงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใน 1-2วันจะทำหนังสือแจ้งเตือนให้สถานีวิทยุชุมชนได้รับทราบ” รักษาการเลขาฯ กทช. กล่าวรายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมของคณะกรรมการ กทช.ยังได้มีมติให้คณะกรรมการปรับปรุงคลื่นความถี่เดิม หรือ รีฟาร์มมิ่ง ให้ไปดำเนินการเจรจาขอโอนคลื่น 1900 เมกะเฮิร์ตซ ของ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในช่วงคลื่นที่ทับซ้อนกับคลื่น 2100 เมกะเฮิร์ตซ ที่คณะกรรมการ กทช.ได้ประกาศให้เป็นคลื่นที่ใช้กับเทคโนโลยี 3 จีรายงานข่าวแจ้งต่อว่า คณะกรรมการรีฟาร์มมิ่งว่าการเรียกคลื่นความถี่คืนจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ จีเอสเอ็ม 1900 เมกะเฮิร์ตซ ดังนั้นการคืนความถี่จะกระทำต่อเมื่อ ทีโอที ได้โอนผู้ใช้บริการไปเครือข่าย ไอเอ็มที – 2000 ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี ขณะเดียวกัน ในระหว่างนี้ห้าม ทีโอที นำเข้าอุปกรณ์และอะไหล่ของเครือข่าย จีเอสเอ็ม 1900 เมกะเฮิร์ตซ และให้ยกเลิกการใช้ความถี่ดังกล่าว โดย กทช.ควรจะจัดตั้งผู้แทนเพื่อเจรจากับทีโอทีเกี่ยวกับเงื่อนไขการคืนคลื่นความถี่ด้าน นายสุรัตน์ เมธีกุล ประธานคณะทำงานด้านกิจการวิทยุกระจายเสียง ชุมชน ในคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ กทช. กล่าวว่า ตามมาตรการข้างต้นต้องจำแนกวิทยุชุมชนออกเป็น 2 ประเภท คือ สถานีวิทยุชุมชนที่ยื่นจดทะเบียน โดยได้รับการรับรองสถานภาพให้ทดลองออกอากาศจำนวน 300 วัน นั้น สามารถลงโทษตามระเบียบที่วางไว้ และสถานีวิทยุที่ไม่ได้จดทะเบียน และไม่มีกฎหมายรองรับ ต้องส่งให้ตำรวจดำเนินการปธ.คณะทำงานด้านกิจการวิทยุกระจายเสียง ชุมชนฯ กล่าวต่อว่า หลังมีมาตรการดังกล่าวออกมา ตามข้อเท็จจริงแล้ว วิทยุชุมชนที่มุ่งหมายจะออกอากาศ ก็ยอมรับ และปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ส่วนวิทยุชุมชนที่เข้าข่ายกระทำความผิดก็จะไม่ปฏิบัติตาม นอกจากนี้ คณะทำงานฯ ยังได้รับงบประมาณจากกทช. จำนวน 50 ล้านบาท เพื่ออบรมให้สถานีวิทยุดำเนินรายการ และออกอากาศอย่างมีคุณภาพ


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive