ทสป.จับมือวิศวฯลาดกระบัง ร่วมวิจัยพัฒนายานเกราะ ให้กองทัพพึ่งพาตัวเอง
คณะวิศวฯ ลาดกระบัง จับมือ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ร่วมกันวิจัยพัฒนายุทโธปกรณ์ บูรณาการขีดความสามารถภาครัฐและเอกชน ในการพัฒนายานเกราะเพื่อการพึ่งพาตนเอง พัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ...ปัจจุบันการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทยมีความเจริญก้าวหน้ามาก ประกอบกับแนวโน้มทางการเมืองระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนในอนาคต และการรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งประกอบไปด้วย 3 เสาหลัก ได้แก่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ประชาคมความมั่นคงอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างองค์ความรู้ บุคลากร ตลอดจนเทคโนโลยีด้านความมั่นคงและป้องกันประเทศอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มระดับขีดความสามารถในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศในประเทศไทย เฉพาะยุทโธปกรณ์มีมูลค่า 50,000 ล้านบาท เป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่ไม่เพียงสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสร้างงานแก่ประชาชนเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมอื่นๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมความมั่นคงในด้านการทหารของชาติอีกด้วย หลายประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในภูมิภาคเอเชียต่างให้ความสำคัญและมุ่งเน้นพัฒนาขีดความสามารถในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศกันอย่างเข้มข้น จนกลายเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่มีการแข่งขันที่รุนแรงไม่น้อยไปกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ช่วยลดการนำเข้าและการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ในด้านการศึกษาพัฒนาบุคคลากร ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)ได้เปิดหลักสูตรปริญญาโท วิศวกรรมป้องกันประเทศในปีที่ผ่านมาในวาระครบรอบ 4 ปี ของหน่วยงาน สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ สทป. ผู้นำด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศในภูมิภาค เชิญสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.),กระทรวงกลาโหม และสถาบันยานยนต์ (Thailand Automotive Institute) จัดเสวนาเรื่อง ‘การบูรณาการขีดความสามารถภาครัฐและเอกชนในการพัฒนายานเกราะเพื่อการพึ่งพาตนเอง’ ขึ้น ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก โดยมี พลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานและจัดแสดงนิทรรศการ นับเป็นอีกก้าวในการเสริมสร้างพัฒนากองทัพไทยเพื่อก้าวไปสู่ความเป็นอาเซียน รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอนาคตอันใกล้พลโทอักษรา เกิดผล รองเสนาธิการทหารบก กล่าวถึงความสำคัญในการพัฒนายานเกราะเพื่อการพึ่งพาตนเองในครั้งนี้ว่า ปัจจุบัน ประเทศชาติต้องเผชิญกับภัยคุกคามต่างๆ กองทัพจำเป็นต้องเสริมความเข้มแข็ง เพื่อรับมือกับทั้งภัยคุกคามแบบดั้งเดิมที่กองทัพต้องปกป้องประเทศจากปัญหาชายแดนและภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ยานเกราะเป็นหนึ่งในยุทโธปกรณ์หลักของกองทัพบก ซึ่งทางกองทัพยังคงมีความต้องการเพิ่มเติมอีกมาก แต่การจัดหายานเกราะนั้นมีราคาแพง เนื่องจากเราต้องนำเข้าจากต่างประเทศ รวมทั้งปัญหาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงในระยะยาว รองเสนาธิการทหารบก กล่าวต่อว่า ดังนั้นเพื่อแนวทางที่เหมาะสมในการจัดหายานเกราะที่มีราคาถูกลง รวมถึงการจัดหาอะไหล่และการซ่อมบำรุงได้ภายในประเทศอย่างรวดเร็ว รวมทั้งยังเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศและช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของชาติ เราจึงมีความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานกองทัพบกกับภาคเอกชนขึ้น การพัฒนาครั้งนี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ภาคส่วนที่มีบทบาทสำคัญในครั้งนี้ คือ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ที่ได้มีการวิจัยค้นคว้ามาอย่างต่อเนื่องด้าน ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวถึงแนวทางความร่วมมือของ สจล. กับ สถาบันยานยนต์ และ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ หรือ สทป. ว่า ไทยในปัจจุบันต้องมุ่งร่วมพัฒนาเทคโนโลยียุทโธปกรณ์ของประเทศ ซึ่งเป็นศาสตร์ระดับสูง โดยสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ร่วมสนับสนุน สทป. หากพิจารณาเปรียบเทียบกับต่างประเทศ เขาตั้งงบวิจัย 7หมื่นล้านบาท และสามารถเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจได้เพราะมีศักยภาพสูงในทุกด้าน เนื่องจากได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างมั่นคงด้วยดีตลอดมาคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ประเทศจีนเองก็ได้พัฒนาและได้รับการยอมรับในส่วนนี้เช่นกัน ทั้งจากหลายๆประเทศที่มีความพร้อมในเรื่องนี้ ต่างร่วมมือกับภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาชั้นนำ ดังนั้นยานเกราะที่จะสร้างขึ้นจำเป็นต้องได้รับความชำนาญและความสามารถชั้นสูงเป็นพิเศษ ในการสร้างยานเกราะ 1 เครื่องนั้น จำเป็นต้องได้รับการร่วมมือทั้งจาก อันดับแรกต้องใช้วิศวกรรมเครื่องยนต์ ในการออกแบบจะต้องใช้วิศวกรรมโยธา เกราะนั้นจะใช้ได้หรือไม่ต้องใช้วิศวกรรมเคมี วิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ นอกจากนี้ต้องใช้วิศวกรรมโทรคมนาคมเข้ามาช่วยในการตรวจสอบอีกครั้ง ระบบในการควบคุมต้องใช้วิศวกรรมระบบควบคุม และทั้งหมดเป็นศาสตร์ชั้นสูงทั้งสิ้น วันนี้ขอขอบคุณที่ให้โอกาสคนไทยได้เสริมสร้างความสามารถตรงนี้ขึ้นมา ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวอีกว่า ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล.ได้พัฒนาจนสามารถทำให้ยานเกราะน้ำหนักเบาขึ้น ขับเคลื่อนได้ง่ายขึ้น จู่โจมได้หลายทิศทาง สามารถแปลงเป็นหน่วยบรรเทาสาธารณภัยได้ ด้วยการพัฒนาจากเทคโนโลยีนาโนชั้นสูง รวมกับการใช้เทคโนโลยีโทรคมนาคมที่ทันสมัย ยานเกราะที่กำลังพัฒนาในขณะนี้ได้ศึกษายานเกราะต่างๆ ดีไซน์และออกมาแล้วแยกชิ้นส่วน จากนั้นทำการวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียออกมา แล้วแปรจุดด้อยนั้นให้เป็นจุดแข็งของการพัฒนาของเรา ตัวม๊อคอัพในตอนนี้ใช้คณิตศาสตร์ชั้นสูงในการคำนวณว่า รูปแบบไหนที่สมบูรณ์ที่สุด เกราะนี้สามารถรับแรงระเบิด แรงปะทะได้ทุกทิศทางตรงนี้สามารถทำใช้ได้เอง และสามารถจดสิทธิบัตรเป็นของเราได้ด้วย ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในระยะเวลาอันใกล้กองทัพไทยจะมียานเกราะที่เราสามารถผลิตใช้ในประเทศของเราเอง และอีกประการที่สำคัญคือ กว่าจะประสบความสำเร็จได้นั้นจะต้องมีการวิจัยพัฒนาและทดสอบมาก่อน อีกองค์กรหนึ่งที่มีความสำคัญในการร่วมพัฒนายานเกราะครั้งนี้ คือ สถาบันยานยนต์ เป็นองค์กรอิสระซึ่งก่อตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี โดยความร่วมมือของภาครัฐ และเอกชน จัดตั้งขึ้นโดยกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ และเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน ในตลาดโลกให้มีความคล่องตัวในการดำเนินงาน และมีความเป็นอิสระในตัวเองเท่าที่กฎหมายจะเอื้ออำนวย ส่วน ดร.ปฏิมา จีระแพทย์ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวถึงการพัฒนามาตรฐานยานยนต์ตามหลักสากล เพื่อการใช้งานในประเทศและส่งออก ว่า “ปัจจุบันการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ โดยเฉพาะรถกระบะ ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 15 ของโลก นี่เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลใน พ.ศ. 2554 และในปี 2555 ประเทศไทยอยู่ในอันดับท็อปเท็นแล้ว ในปีที่ผ่านมามีการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ โดยเฉพาะรถกระบะถึง 2,450,000 คัน และตัวเลขการส่งออกรถยนต์สูงขึ้น 40% ของการผลิตทั้งหมด เรามีการวางแผนคาดการณ์ (Projection) เพื่อรองรับการพัฒนาต่อไปในประเทศไทยทั้งรถยนต์และรถกระบะ ทั้งนี้สามารถเห็นการเติบโตของการผลิตที่โตขึ้นโดยลำดับตั้งแต่ช่วง 2549 ยอดการผลิตรถยนต์ของปี 2556 ไม่ควรน้อยกว่าปีที่ผ่านมาหรืออาจจะมากกว่า 2 ล้านคันขึ้นไป และสูงขึ้นอีก 50 % แผนการพัฒนารถยนต์ของเราในขณะนี้ใช้แผนระบบฉบับที่ 3 ของไทย และจะสร้างการผลักดันให้ดีขึ้นผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของยานเกราะนั้นที่ผ่านมาประเทศไทยมีการนำเข้ายานเกราะถึง 1,500 ล้านบาท ประเทศที่เรานำเข้ามากที่สุดคือ ประเทศยูเครน และสหรัฐอเมริกา ในเรื่องการส่งออกมีมูลค่า 40 ล้านบาท ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ค่อนข้างจะหนักมาก เราจึงอยากมีส่วนร่วมในการพัฒนายานเกราะ ไม่ว่าจะใช้เองในประเทศหรือจะผลิตขึ้นเพื่อส่งออก เรื่องของการวิเคราะห์โอกาสเออีซีที่กำลังจะมาถึงในอีก 2 ปีข้างหน้า ผมคิดว่าเป็นการดีที่มีความร่วมมือกันในอาเซียน เพราะส่งประโยชน์กับการพัฒนาของกองทัพไทยกับต่างประเทศ ปัจจุบันไทยมีบริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ 4,000 กว่าราย ดังนั้นเราสามารถพัฒนาและสร้างประโยชน์ในการเสริมความรู้ศักยภาพ ทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ประสานงานองค์ความรู้จากต่างประเทศให้แก่บริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จะเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย มีศักยภาพและความพร้อมเป็นอย่างมาก ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมและให้การสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยเราในด้านยานเกราะ และเชื่อว่าหลังจากนี้ ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของทุกภาคส่วนจะทำให้การพัฒนายานเกราะเพื่อการพึ่งพาตนเองของไทยอย่างยั่งยืน รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะขยายไปสู่ความร่วมมือในระดับอาเซียน.
Saturday, March 2, 2013
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Blog Archive
-
▼
2013
(246)
-
▼
March
(54)
- เอเซอร์หันลุยตลาดแท็บเล็ต แย้มมีทีเด็ดแฟบเล็ต-สมาร...
- ทีโอที กดปุ่มเปิด3จี ทั่วเชียงใหม่
- บางกอกแอพ พาสนุกกับตัวเลข โดย Mad Teacher
- Garena Star League ระเบิดศึก2เกมออนไลน์ดัง HON-Poi...
- หนุนตั้ง สมาคมอี-สปอร์ต พลิกวิถีเกมออนไลน์
- เอเซอร์หันลุยตลาดแท็บเล็ต แย้มมีทีเด็ดแฟบเล็ต-สมาร...
- ทีโอที จับมือไซแมท ส่งเน็ตเร็วสูง30-100เมก เขย่าเช...
- เอเซอร์ปักธงรุกโมบิลิตี้ เร่งดันไฮบริดพยุงตลาดโน้ต...
- กสทช.สั่งทุกค่ายมือถือเตรียมแผนรับมือพลังงาน 5-14 ...
- ออโตเดสก์รีแบรนด์ใหม่ ก้าวสู่โลกคลาวด์-โมบาย
- เตือนขาหื่น!! ระวังแอพลวงโลก X-Rayทะลุเสื้อผ้า
- กสท เข้มมาตรการรับมือพลังงาน มั่นใจไม่กระทบลูกค้า
- เอชพีเผยโฉม อีลิทแพด900 แท็บเล็ตรุ่นแรก เจาะกลุ่มอ...
- โลกาภิวัตน์ 28/03/56
- ไทยรัฐมอบรางวัล3ผู้โชคดี จากกิจกรรม ใครคือผู้ว่ากร...
- กสทช. ตั้งศูนย์สื่อสาร ช่วยเหยื่อเพลิงขุนยวม
- ทรูมูฟเอชส่ง Go Live ขยายตลาด3จี จับคู่ขายพ่วงมือถ...
- ทรูยันสถานี3จีครบ18,500แห่งทันสิ้นปี เชื่อไร้ปัญหา...
- นักวิชาการจวก กสทช. ให้ช่องทีวีสาธารณะช่อง5-11
- บอร์ด กสท.เคาะช่องทีวีสาธารณะ TPBS ได้ 2ช่อง
- เปิดฉาก AIS The Startup Weekends คนรุ่นใหม่ร่วมงาน...
- เอเชียซอฟท์ ชู2กลยุทธ์ปี56บุกตลาดอาเซียน-โมบายล์
- เอเอ็มดีเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่สำหรับแท็บเล็ต-ไฮบริดพีซี
- โลกาภิวัตน์ 14/03/56
- เม.ย.มีเฮ! กสทช. ยืนยัน คนไทยได้ใช้ 3จี คลื่น 2.1GHz
- เซียร์รังสิตผุด Big Sale 2013 ลดครั้งแรกของปี คืนก...
- โลกาภิวัตน์ 13/03/56
- พันทิปจัดประกวดสิ่งประดิษฐ์จากไอทีเหลือใช้
- Ini3 จ่อเปิดศึก E-Lympic Games 2013 ประเดิม Summer...
- โลกาภิวัตน์ 12/03/56
- กูเกิลผุด How Search Works แจงขั้นตอนค้นหาคำตอบ
- IDC แนะจับตาตลาดเอ็นเตอร์ไพรซ์โมบิลิตี้เอเชีย โอกา...
- เยอรมนีแนะกสทช. ยึดผู้บริโภคปมเปลี่ยนคลื่น 1800 เป...
- เครือข่ายผู้บริโภคยื่น กสทช.ฟันทุกช่องโฆษณาเกินจริง
- จ๊อบส์ดีบี เผยคนไทยหางานใหม่เสมอ ใช้มือถือเป็นเครื...
- โตชิบา เปิดตัวคอนเวอร์ทิเบิล อัลตร้าบุ๊กตัวล่าสุด
- ไมโครซอฟท์ โชว์ The new Office ชูแนวคิดยุคใหม่ของก...
- อะโดบี เปิดตัว โฟโต้ช็อป ทัช สำหรับไอโฟน-แอนดรอยด์
- โลกาภิวัตน์ 08/03/56
- นิคอน เปิดตัว คูลพิกซ์ A กล้องคอมแพ็ค DX format
- แอลจี เปิดตัว Optimus G สมาร์ทโฟนเรือธงปี56
- โลกาภิวัตน์ 07/03/06
- เนคเทคจับมือกรมการข้าว ส่งแอพฯช่วยชาวนา
- กสทช.เคาะช่อง 3-7-9 ทดลองออกอากาศดิจิตอลคู่ขนานบนช...
- ‘เอเชียซอฟท์’ เล็งจับมือพันธมิตรเกมระดับโลก หวังขย...
- ทสป.จับมือวิศวฯลาดกระบัง ร่วมวิจัยพัฒนายานเกราะ ให...
- ซัมซุง ปูพรมตลาดกล้องสมาร์ท คาเมร่า ชูต่อไวไฟแชะแล...
- เลอโนโว เผยแท็บเล็ตแอนดรอยด์ใหม่ในงาน MWC2013
- ไอซีที ร่วมร่างแผนปฏิบัติการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิ...
- เอปสัน ขยายฐานแท็งก์แท้ รุกเจาะตลาดโฮมยูส
- ทสป.จับมือวิศวฯลาดกระบัง ร่วมวิจัยพัฒนายานเกราะ ให...
- ซิสโก้เลือกกรุงเทพฯ จัด Cisco Innovate โชว์เทคโนโลยี
- ไทยคม แจงไอพีสตาร์ถูกต้อง พร้อมให้ข้อมูล กสทช.
- คอนติเนนทอล โชว์เทคโนโลยี เพื่อนร่วมดิจิตอลรับการข...
-
▼
March
(54)
No comments:
Post a Comment