ออโตเดสก์รีแบรนด์ใหม่ ก้าวสู่โลกคลาวด์-โมบาย

ออโตเดสก์รีแบรนด์ใหม่ ก้าวสู่โลกคลาวด์-โมบาย
ออโตเดสก์ อิงค์ พลิกธุรกิจ เปิดตัวแบรนด์ใหม่ พร้อมเผยโลโก้และรูปลักษณ์ใหม่สู่ยุคคลาวด์และโมบาย...ที่งาน TED 2013 ที่จัดขึ้นที่เมืองลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่เป็นงานสัมมนาที่รวบรวมเอานักคิดที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกมารวมกันเพื่อ สร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ หลังจากที่ตลอดช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ออโตเดสก์ (Autodesk) ได้มีบทบาทสำคัญในงานการออกแบบและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ที่เห็นรอบตัวเรา โดยทางบริษัทได้เริ่มจากการเป็นบริษัทซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบ (CAD) และพัฒนาจนกลายมาเป็นผู้นำในด้านงานวิศวกรรมและการออกแบบ 3D ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยีของ Autodesk ได้มีบทบาทสำคัญในโครงการต่างๆ ทั่วโลกมากมาย เช่น งานออกแบบตึก Shanghai Tower และตึก Freedom Tower ในนิวยอร์ก การออกแบบรถยนต์ Ford Mustang ใหม่รวมทั้งภาพยนตร์ดังๆ มากมาย รวมทั้งเคยคว้ารางวัลเอฟเฟ็กต์ยอดเยี่ยมในการประกาศผลออสการ์ที่ผ่านมาอีกด้วยนายคริส แบรด์ชอว์ หัวหน้าผู้บริหารการตลาด Autodesk กล่าวว่า เผยไม่มีที่อื่นใดแล้วที่จะเปิดตัวแบรนด์ใหม่ของ Autodesk ได้ดีกว่าเวที TED ที่รวมเอาสุดยอดด้านเทคโนโลยี ดีไซน์และบันเทิงเข้าไว้ในงานสัมนาเดียวกัน และ Autodesk โฉมใหม่จะไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงแค่รูปลักษณ์ภายนอก แต่นี่คือภาพสะท้อนของพัฒนาการธุรกิจของเรา และการขยายตัวของระบบคลาวด์และเทคโนโลยีโมบาย ได้พลิกโฉมหน้าวงการดีไซน์ไปอย่างสิ้นเชิง รวมทั้งประเด็นสำคัญว่าใครเป็นคนออกแบบ และเพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราได้ใช้ประโยชน์จากความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ทาง Autodesk จึงได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจเมื่อหลายปีก่อน และได้เริ่มนำเอาซอฟต์แวร์ที่เน้นระบบคลาวด์และโมบาย ที่นำเสนอเครื่องมือการดีไซน์ใหม่ๆ ไปสู่มือลูกค้าระดับมืออาชีพของเรา ช่วยให้ดีไซน์เนอร์ได้ติดต่อถึงกัน มองหาไอเดียใหม่ที่จะพัฒนาชีวิตผู้คน สร้างโปรดักส์ใหม่ที่ดีกว่า ถนน อาคาร สะพาน งานศิลปะ ที่เข้าถึงผู้คน และภาพยนตร์ที่ดึงดูดใจ หัวหน้าผู้บริหารการตลาด Autodesk กล่าวต่อว่า เครื่องมือต่างๆ ในการดีไซน์เหล่านี้ สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิมสำหรับทีมดีไซน์ในทุกระดับและงบประมาณ เช่น เมื่อเร็วๆ นี้ทาง Autodesk ได้เปิดตัวซอฟต์แวร์เอนิเมชั่นอย่าง Autodesk Maya และ Autodesk 3ds Max สำหรับการเข้าใช้งาน 90 วันในตลาดอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งช่วยให้ทีมออกแบบที่ใช้งานซอฟต์แวร์สามารถควบคุมการใช้งานซอฟต์แวร์ได้ มากขึ้นในช่วงสำคัญๆของโปรเจ็กต์ นอกจากนี้ เซอร์วิสที่ผ่านระบบคลาวด์อย่างเช่น Autodesk PLM 360, Autodesk Simulation 360, Autodesk BIM 360 Glue และที่จะตามมาก็คือ Autodesk Fusion 360 ก็จะมีให้บริการในแบบสมัครใช้งานตามช่วงเวลาอีกด้วย โดยมีลูกค้าผู้ใช้งานระดับมืออาชีพกว่า 15 ล้านราย ได้เข้าใช้งานคลาวด์ของ Autodesk นับตั้งแต่วันเปิดบริการเมื่อเดือนกันยายนปี 2011นายแบรด์ชอว์  กล่าวอีกว่า นอกจาก นี้ Autodesk ยังได้ลงทุนในตลาดใหม่ๆ เช่น งานเพอร์ซัลนัลเฟบริคเคชั่น และดิจิตอลอาร์ต ที่ดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ เป็นล้านคนต่อเดือนมาใช้งานแอพพลิเคชั่นดีไซน์และโปรดักส์ของ Autodesk โดยทุกวันนี้ บรรดาดีไซน์เนอร์ วิศวกร สถาปนิก ครีเอทีฟ นักศึกษาและผู้สนใจศิลปะมากกว่า 100 ล้านรายได้ใช้งานซอฟต์แวร์ บริหารคลาวด์ และแอพพลิเคชั่นโมบายของ Autodesk โดยใช้เทคโนโลยีของ Autodesk เพื่อถ่ายทอดจินตนาการ และพลังการสร้างสรรค์ การออกแบบและสร้างทุกสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นจริง“การเปลี่ยนรูปลักษณ์นี้ คือ การอัพเดทแบรนด์ของเราครั้งที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์การก่อตั้ง บริษัทกว่า 30 ปี อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังปี 1982 เราได้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยมาบ้างแล้วในเรื่องสีและรูป โดยเราค่อยๆ เปลี่ยนจากไอคอนเดิมที่เป็นรูปอุปกรณ์คาลิปเปอร์ ซึ่งเป็นเครื่องวัดระยะอุปกรณ์ช่าง มาเป็นการใช้ชื่อ Autodesk โดยรูปลักษณ์ใหม่ของแบรนด์เราจะประกอบไปด้วยโลโก้ที่มีชื่อบริษัท Autodesk เป็นครั้งแรกในรอบมากกว่าสิบปี โดยทีมงานดีไซน์เนอร์ของ Autodesk ได้ออกแบบแบรนด์ขึ้นมาใหม่โดยได้แรงบันดาลใจจากศิลปะการพับกระดาษโอริกามิ ของญี่ปุ่น สร้างสไตล์ที่รวมเอาศิลปะ วิทยาศาสตร์ รูปแบบและฟังก์ชั่นที่แสดงถึงตัวตนของซอฟต์แวร์ต่างๆ ของ Autodesk ได้อย่างลงตัวและสวยงาม” หัวหน้าผู้บริหารการตลาด Autodesk กล่าว