Friday, March 8, 2013

เครือข่ายผู้บริโภคยื่น กสทช.ฟันทุกช่องโฆษณาเกินจริง

เครือข่ายผู้บริโภคยื่น กสทช.ฟันทุกช่องโฆษณาเกินจริง
เครือข่ายผู้บริโภค 4 จ.ภาคกลาง ยื่นหนังสือ กสทช. โฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพเกินจริงในเคเบิลทีวี โทรทัศน์ดาวเทียม เครือข่ายผู้บริโภคสระบุรี ร้อง กสทช.ช่วยตรวจสอบ...เมื่อวันที่ 8 มี.ค.นายกำชัย น้อยบรรจง เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยเครือข่ายผู้บริโภค 4 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดสระบุรี จังหวัดอ่างทอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสิงห์บุรี และแผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา (กพย.) เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงฯ เพื่อให้ตรวจสอบและมีมาตรการเกี่ยวกับโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เกินจริงและผิดกฎหมาย มีการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงในเคเบิลทีวีโดยพบว่าในเคเบิลทีวี 6 ช่องรายการ มีการโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายและอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงที่มีทั้งการโฆษณาและเป็นรายการที่มีทั้งการจัดเป็นรูปแบบการถามตอบหรือรูปแบบเป็นรายการในเคเบิลทีวี หากผู้บริโภคหลงเชื่อโฆษณาที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงเหล่านี้อาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ หรือสูญเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ได้ ตัวอย่างกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่โฆษณา เช่น ผลิตภัณฑ์ยาแผนโบราณและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อวดอ้างว่ารักษาสารพัดโรคได้ ผลิตภัณฑ์เสริมสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย และตนได้ยื่นหลักฐานที่ได้อัดโฆษณาดังกล่าวไว้ในแผ่นซีดีที่มอบให้ด้วย ทั้งนี้ขอความร่วมมือจาก กสทช.ในรายงานความคืบหน้าทุก 7 วันด้วย เพื่อให้รู้ถึงสถานการณ์ในการแก้ปัญหาของหน่วยงานกำกับดูแลก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 มี.ค.2556 ที่ผ่านมา เครือข่ายผู้บริโภคจังหวัดสระบุรี ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระบุรี เพื่อร้องเรียนการโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงในสถานีวิทยุในบริเวณจังหวัดสระบุรีด้วยเลขาธิการสมาคมพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคจังหวัดสระบุรี กล่าวต่อว่า เครือข่ายฯ มีข้อเสนอแนะต่อ กสทช.ดังนี้ 1.ขอให้ กสทช.เพิ่มเติมหลักเกณฑ์และเงื่อนไขประกอบการขอรับใบอนุญาตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโฆษณาอาหารและยาที่เอาเปรียบผู้บริโภคผ่านทางกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ผู้ประกอบการยังไม่ได้รับอนุญาต ต้องพิจารณาประวัติของการกระทำผิดที่เกี่ยวกับการโฆษณาซึ่งเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคผ่านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ ตรวจสอบการโฆษณาในเคเบิลทีวีอย่างจริงจัง ทบทวนการให้ใบอนุญาตแก่ผู้ประกอบการที่เข้าข่ายการโฆษณาที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง การลงโทษปรับผู้ประกอบการที่กระทำผิดกฎหมาย จะต้องคำนึงถึงรายได้ของผู้ประกอบการที่กระทำผิดกฎหมาย มีระบบรับเรื่องร้องเรียนของ กสทช.ในส่วนที่เกี่ยวกับการโฆษณาที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคซึ่งสามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีประสิทธิภาพนอกจากนี้เครือข่ายผู้บริโภคจังหวัดสระบุรี ยังได้ร่วมมือกับแผนงาน กพย. และเครือข่ายจากจังหวัดอื่น เช่น ขอนแก่น พะเยา สงขลา ในการเฝ้าระวังโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายผ่านทางกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม โดยขอเชิญชวนให้ผู้บริโภคที่พบโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายหรือพบปัญหาจากการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพดังกล่าวได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่หมายเลขสายด่วน 1556 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) หรือร้องเรียนมายังสำนักงาน กสทช. ที่หมายเลขสายด่วน 1200 เพื่อร่วมเป็นพลังจัดการปัญหาโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เป็นปัญหาเหล่านี้ เป็นแนวทางพัฒนาระบบการรับเรื่องร้องเรียน และการเฝ้าระวังปัญหาผลิตภัณฑ์สุขภาพต่อไปน.ส.สุภิญญา กล่าวว่า รับข้อเสนอดังกล่าวนี้ไปพิจารณาและดำเนินการตรวจสอบว่าทั้ง 6 ช่องรายการได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจาก กสท. ก็จะเข้าไปกำกับดูแลและดำเนินการตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 มีตั้งแต่โทษแจ้งเตือน ปรับทางปกครองและการเพิกถอนใบอนุญาต แต่ทั้งนี้หากตรวจสอบพบว่าทั้ง 6 ช่องรายการที่ร้องเรียนไม่ได้อยู่กระบวนการใบอนุญาตก็จะดำเนินการแจ้งตำรวจเพื่อดำเนินคดีเรื่องการโฆษณาเกินจริงต่อไปอย่างไรก็ตาม สำนักงาน กสทช.กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลช่องรายการที่ได้รับการร้องเรียนว่ากระทำความผิดจากผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับใช้เป็นฐานข้อมูลประกอบการพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการ 1 ปี ก่อนให้ใบอนุญาตอีกครั้ง 14 ปี นอกจากนี้ ยังได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนผู้ประกอบการดาวเทียมที่รับใบอนุญาตช่องรายการให้ปฏิบัติตามกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อไม่ให้กระทำความผิดและเอาเปรียบผู้บริโภค  

No comments:

Post a Comment

Blog Archive