ปตท.สผ.เลือก กสท ให้บริการโครงข่ายเคเบิลใยแก้วใต้น้ำอ่าวไทย

ปตท.สผ.เลือก กสท ให้บริการโครงข่ายเคเบิลใยแก้วใต้น้ำอ่าวไทย
ปตท.สผ.เลือก กสท ให้บริการโครงข่ายเคเบิลใยแก้วใต้น้ำอ่าวไทย เพิ่มศักยภาพการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม เสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ...นายสุรพล สงวนศิลป์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิตภัณฑ์ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT กล่าวว่า การลงนามในสัญญาบริการโครงข่ายเคเบิลใยแก้วใต้น้ำอ่าวไทย กับบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพกิจกรรมการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของ ปตท.สผ. ให้เป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในอนาคตทั้งนี้ โครงข่ายเคเบิลใยแก้วใต้น้ำอ่าวไทย ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งได้เปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2556 ที่ผ่านมา โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารยุคใหม่ในการเชื่อมโยงโครงข่ายขององค์กรผ่านระบบโครงข่ายเคเบิลใยแก้วใต้น้ำที่มีเสถียรภาพและประสิทธิภาพของ กสท ซึ่งจะช่วยทำให้ศูนย์กลางระบบการจัดการปิโตรเลียมบนฝั่ง สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพมหานคร ฐานสนับสนุนการพัฒนาปิโตรเลียม จ.สงขลา และแท่นผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย สามารถติดต่อสื่อสารระหว่างกัน ในลักษณะเรียลไทม์ เพื่อควบคุมดูแลกระบวนการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่มีความซับซ้อนบนแท่นผลิต รวมทั้งดูแลอุปกรณ์ภายในกระบวนการทั้งหมดและสภาวการณ์ด้านความปลอดภัยอย่างครอบคลุมและทั่วถึง โดยข้อมูลต่างๆ จะถูกส่งมาวิเคราะห์ที่ศูนย์กลางระบบ บนฝั่ง และสั่งการกลับแบบทางไกล (Remote controller) ทำให้สามารถแก้ปัญหาในกระบวนการสำรวจและผลิตได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงทีนายสมชาย มโนภินิเวศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานปฏิบัติการซัพพลายเชนและเทคโนโลยี ปตท.สผ. กล่าวว่า การพัฒนาระบบในครั้งนี้ แสดงถึงเจตนารมณ์ของ ปตท.สผ. ในฐานะบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของไทย โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นตัวขับเคลื่อนการดำเนินงาน เพื่อนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของ ปตท.สผ. และความมั่นคงของประเทศไทย ทั้งนี้ กสท นำระบบไอที มาประยุกต์ใช้งานในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ขององค์กรเพื่อสนับสนุนระบบการผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย สำหรับการใช้งานบนโครงข่ายเคเบิลใยแก้วใต้น้ำอ่าวไทย ซึ่งได้จัดสร้างเสร็จเรียบร้อยและเปิดใช้งานไปแล้วนั้น นับเป็นระบบที่ดีที่สุดระบบหนึ่งในการให้บริการโครงข่ายของ กสท ซึ่งนอกจากการให้บริการในกลุ่มของธุรกิจพลังงานแล้ว ยังเป็นเส้นทางเคเบิลใต้น้ำที่จะเสริมศักยภาพโครงข่ายของ กสท ในการรับ-ส่งข้อมูลจากภาคใต้และตะวันออก กับส่วนกลาง และการรับ-ส่งข้อมูลระหว่างประเทศ ที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงนามในสัญญาบริการครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวของการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเลียมไทย ที่จะช่วยส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไทย อันจะส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยอย่างยั่งยืนในอนาคต.