Tuesday, April 9, 2013

เนคเทค เปิดตัวแอพฯ S-Sense ติดตามความรู้สึกบนโซเชียล

เนคเทค เปิดตัวแอพฯ S-Sense ติดตามความรู้สึกบนโซเชียล
เนคเทค เปิดตัวแอพฯ S-Sense ให้ประชาชนทั่วไปได้ติดตามข้อมูลความรู้สึกของผู้ที่ใช้ภาษาไทยบนโซเซียลมีเดียแบบเรียลไทม์...กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เดินหน้าส่งผลงานสู่ภาคธุรกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อหลุดพ้นจากประเทศรายได้ปานกลาง ด้วยการใช้นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ ล่าสุดประกาศเปิดตัวแอพพลิเคชั่น S-Sense แอพฯ วัดความรู้สึกคนไทยบนโซเซียลมีเดีย พร้อมเปิดเว็บไซต์ http://pop.ssense.in.th ให้ประชาชนทั่วไปได้ติดตามข้อมูลความรู้สึกของผู้ที่ใช้ภาษาไทยบนโซเซียลมีเดียแบบเรียลไทม์ ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าวให้กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ใช้การติดตามแบรนด์ หรือการวิจัยตลาด ใช้สำรวจความพึงพอใจและติดตามทัศนคติของสาธารณะ ที่มีต่อผลิตภัณฑ์และบริการของตัวเอง เพื่อให้ได้มาซึ่งความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้น และช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้สูงยิ่งขึ้น อันจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเอสเอ็มอี ด้วยเทคโนโลยีซอฟต์แวร์และสารสนเทศดิจิตอล และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวตัวอย่างประโยชน์ที่ได้รับจากแอพพลิเคชั่น S-Sense ทีมนีกวิจัยเนคเทคได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจ ล่าสุดพบว่าในช่วงเดือน ม.ค. ถึง มี.ค.2556 สถานที่ท่องเที่ยวที่มีการพูดถึงบนโลกโซเซียลมีเดียและเช็กอินมากที่สุด 10 อันดับแรก คือ 1.พารากอน 2.เซ็นทรัลเวิลด์ 3.เชียงใหม่ 4.เขาใหญ่ 5.เยาวราช 6.สวนสยาม 7.เอเชียทีค 8.ปาย 9.สวนรถไฟ 10.หอศิลป์สถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนโลกโซเซียลมีเดียกล่าวเชิงบวกมากที่สุด 10 อันดับแรกคือ 1.ถนนข้าวสาร 2.สวนสยาม 3.หอศิลป์ 4.เชียงคาน 5.อัมพวา 6.วังน้ำเขียว 7.พารากอน 8.เกาะล้าน 9.ภูหินร่องกล้า 10.แม่สายสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนโลกโซเซียลมีเดียกล่าวเชิงลบ (negative) มากที่สุด 10 อันดับแรกคือ 1.ภูชี้ฟ้า 2.แก่งกระจาน 3.แม่ฮ่องสอน 4.ปราสาทพระวิหาร 5.เขาพระวิหาร 6.สวนจตุจักร 7.ปาย 8.เชียงใหม่ 9.เขาค้อ 10.สวนลุมเอสเซนส์ (S-Sense: Social Sensing) เป็นเครื่องมือสำหรับรวบรวม ติดตามวิเคราะห์ ประมวลผลข้อความบนโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ยูทูบ พันทิป เนื่องจากข้อความส่วนใหญ่ในโลกไซเบอร์ นิยมใช้ภาษาที่ไม่เป็นทางการ หรือภาษาพูด รวมทั้งมีโครงสร้างประโยคที่ไม่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ภาษาไทย จึงทำให้ยากต่อการวิเคราะห์ ดังนั้น เทคโนโลยีของ S-Sense จึงถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นมาด้วยเทคนิคการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) การทำเหมืองข้อความ (Text Mining) และการวิเคราะห์อารมณ์และความรู้สึก จากข้อความ (Sentiment Analysis) เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ข้อความที่ใช้ภาษาพูดและไม่เป็นทางการได้อย่างมีประสิทธิภาพระบบ S-Sense สามารถนำมาช่วยให้ธุรกิจ หรือองค์กรรับรู้กิจกรรมความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรของตนและตรวจสอบความพึงพอใจและติดตามทัศนคติของสาธารณะที่มีต่อยี่ห้อ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการต่างๆ ของตนได้ เพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ขณะที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานต่างๆ ได้ดังต่อนี้ การติดตามแบรนด์ หรือการวิจัยตลาดเพื่อสำรวจความพึงพอใจ และติดตามทัศนคติของสาธารณะ ที่มีต่อผลิตภัณฑ์และบริการของตัวเอง หรือของคู่แข่ง เพื่อให้ได้มาซึ่งความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้น และช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้สูงยิ่งขึ้น การสำรวจผลการตอบรับของลูกค้า หรือสาธารณชนที่มีต่อผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือแคมเปญใหม่การสำรวจความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร โดยวิเคราะห์ข้อความที่เกี่ยวข้องกับองค์กรที่พนักงานได้โพสต์เป็นคำถาม หรือแสดงความคิดเห็นสำหรับผู้สนใจทั่วไป สามารถเข้าชมและพบกับทีมนักวิจัยผู้พัฒนาระบบ S-Sense ได้ที่บูธนิทรรศการหมายเลข ๒๐๗ ในงาน Thailand Online Expo ENJOY THE FUTURE ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-28 เม.ย.2556 และลงทะเบียนเข้าร่วมรับฟังการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น S-Sense อย่างเป็นทางการในเวทีโฟกัส กรุ๊ป วันที่ 25 เม.ย. 2556 เวลา 13.00 น. ลงทะเบียนได้ที่ http://www.thailandonlineexpo.com/

No comments:

Post a Comment

Blog Archive