Thursday, December 20, 2012

ทีโอทีจี้ผู้ตรวจฯยื่นอุทธรณ์ศาล ปค.สูงสุด ปม3จี

ทีโอทีจี้ผู้ตรวจฯยื่นอุทธรณ์ศาล ปค.สูงสุด ปม3จี
“ทีโอที” จี้ผู้ตรวจฯ ยื่นอุทธรณ์ศาล ปค.สูงสุด ปม3จี พร้อมส่งศาล รธน. ตีความข้อกฎหมาย ชี้ผู้ตรวจฯ มีอำนาจสอบ กสทช. ด้านโฆษกฯ เผยเตรียมเข้าที่ประชุมอังคารหน้า คาดอุทธรณ์ก่อน 2 ม.ค.เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กลุ่มผู้นำแรงงาน บมจ.ทีโอที นำโดย นายนราพล ปลายเนตร พร้อมนายพิราม เกษมวงศ์ นายพงศ์ฐิติ พงศ์ศิรามณี และคณะ เดินทางมายื่นหนังสือถึงนางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้เสนอความเห็นยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด และเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความข้อกฎหมาย โดยนายพงศ์ฐิติ กล่าวว่า ทางกลุ่มเห็นว่าคลื่นความถี่เป็นสมบัติของประเทศ โดยมีประชาชนเป็นเจ้าของ และมีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่เป็นผู้รับผิดชอบ เมื่อ กสทช. นำคลื่นความถี่ไปประมูลโดยไม่มีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม แม้จะอ้างว่าต้องการให้ต้นทุนในการประมูลต่ำ เพื่อนำไปสู่ค่าบริการที่มีราคาถูกลง การประมูลครั้งนี้ ทางกลุ่มมองว่าผลประโยชน์และรายได้ที่เข้าสู่ประเทศลดลง ไม่ได้ประโยชน์อย่างแท้จริง ผู้ตรวจการฯ ในฐานะองค์กรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำหน้าที่ของหน่วยงานรัฐ มีอำนาจในการตรวจสอบ กสทช. ที่เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ให้มาบริหารจัดการคลื่นความถี่ ถือเป็นหน่วยงานของรัฐที่ได้รับเงินงบประมาณสนับสนุนจากรัฐ ตามมาตรา 65 ของ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ดังนั้นถ้าหากศาลปกครองกลางเห็นว่า ผู้ตรวจการฯ ไม่มีอำนาจตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานของรัฐ คิดว่าก็คงไม่มีองค์กรไหนตรวจสอบ กสทช.ได้ ดังนั้นขอให้ผู้ตรวจการฯ เร่งดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดโดยเร็ว พร้อมทั้งเสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อตีความข้อกฎหมายกรณีที่ศาลปกครองกลางเห็นว่า กสทช.ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่อยู่ในอำนาจฟ้องของผู้ตรวจการฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 244(1) (ก)นายรักษเกชา กล่าวว่า ผู้ตรวจการฯ ได้เห็นพ้องที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดอย่างแน่นอน ขณะนี้อยู่ระหว่างร่างคำฟ้องโดยไม่ได้กังวลอะไร แต่เป็นห่วงว่าจะทำให้สาธารณชนคลายความสงสัยในเรื่องดังกล่าวได้อย่างไร เพราะการยื่นอุทธรณ์จำเป็นต้องได้ข้อมูลที่ชัดเจนมากที่สุด อีกทั้งตนจะนำคำร้องในวันนี้ไปศึกษา เพื่อประกอบการร่างคำฟ้องและเสนอเข้าที่ประชุมผู้ตรวจการฯ ในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ เพื่อให้ทันกรอบเวลา 30 วันของการยื่นอุทธรณ์ที่จะครบกำหนดในวันที่ 2 ม.ค.56 ทั้งนี้กระบวนการแรกอยากให้ศาลปกครองสูงสุดรับคำฟ้องก่อน และหลังจากนั้นผู้ตรวจการฯ ก็พร้อมจะให้ข้อมูลเอกสารและชี้แจงศาลต่อไป.

No comments:

Post a Comment

Blog Archive