Tuesday, December 4, 2012

ซินเน็ค ชี้ตลาดไอทีฟื้น หลังคลอดวินโดวส์8,3จี

ซินเน็ค ชี้ตลาดไอทีฟื้น หลังคลอดวินโดวส์8,3จี
ซินเน็ค ฝากความหวังไว้ที่ไตรมาสสุดท้าย เผยครึ่งปีหลังตลาดไอทีกลับมาคึก หลัง 6 เดือนแรกชะลอตัว เชื่อกำลังซื้อหนุนอุตสาหกรรมไอทีฟื้นตัว หลังเปิดตัววินโดวส์ 8 และ 3จี ทำผู้บริโภคแห่ซื้อของใหม่เพียบ...นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ระบบสารสนเทศและอุปกรณ์ไอที เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ มีทิศทางเติบโตขึ้น เนื่องจากในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้มีการเปิดตัวซอฟต์แวร์วินโดวส์ 8 ซึ่งถือเป็นการสร้างมิติใหม่แก่ผู้ใช้ พีซี คอมพิวเตอร์ และโน้ตบุ๊ก ทั้งยังช่วยกระตุ้นตลาดโน้ตบุ๊กและพีซีให้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงส่งผลดีต่อบริษัทในฐานะตัวแทนจำหน่ายโน้ตบุ๊กรายใหญ่ของประเทศไทยให้เติบโตไปในทิศทางเดียวกัน ขณะที่การประมูลใบอนุญาต 3จี บนคลื่นความถี่ 2.1GHz ก็ได้ส่งผลให้ยอดขายสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตคึกคัก เชื่อว่ายอดขายสินค้าดังกล่าวจะเติบโตอย่างต่อเนื่องไปถึงปีหน้าคาดว่าในไตรมาส 4/2555 บริษัทจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2555 ได้ และมั่นใจว่าจะเติบโตมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วย หลังจากภาพรวมอุตสาหกรรมไอทีในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตขึ้น จากการเปิดตัววินโดวส์ 8 และความชัดเจนของการประมูลคลื่น 3จี รวมถึงการจัดงานคอมมาร์ต คอมเทคส่งท้ายปี เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้กระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคให้กลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง ซึ่งส่งผลดีต่อซินเน็คอย่างชัดเจน และคาดว่าผลประกอบการในปีนี้จะเติบโตไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกธุรกิจไอทีจะชะลอตัวลงตามการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจก็ตาม” นายสุพันธุ์ กล่าวทั้งนี้ บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) ได้รายงานผลประกอบการประจำงวดไตรมาส 3/2555 ว่า บริษัทมีผลกำไรสุทธิจำนวน 128.51 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2554 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 87.35 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 41.16 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 47.13 ทั้งนี้ ผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นมาจากสาเหตุหลักคือการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 49.24 ล้านบาท ขณะที่ปีก่อนมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 17.07 ล้านบาทประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) กล่าวอีกว่า ส่วนการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อขยายธุรกิจในประเทศพม่านั้น เป็นการสานต่อนโยบายการขยายตลาดในต่างประเทศเพื่อรองรับการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้บริษัทแข็งแกร่งขึ้น โดยคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะชัดเจนภายในไตรมาส 1/2556 หลังจากนั้นจะเห็นการขยายตลาดในประเทศพม่าเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ.

No comments:

Post a Comment

Blog Archive