Saturday, January 26, 2013

วิจัยไข้หวัดนกผลงานระดับดีเยี่ยม!

วิจัยไข้หวัดนกผลงานระดับดีเยี่ยม!
                          ไม่ปฏิเสธว่าในห้วง 10 ปีที่ผ่านมาการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกในสัตว์ ไม่เพียงสร้างความหายนะแก่วงการปศุสัตว์ไทยเท่านั้น แต่ยังมีการระบาดมาสู่คน จนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้ทีมคณาจาย์จากภาควิชาสัตวแพทย์สาธารณสุข คณะสัตวแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำโดยรศ.นสพ.อลงกร อมรศิลป์ เริ่มลงมือทำการวิจัยทันทีเพื่อหยุดยั้งและหาทางป้องกันการระบาดของโรคร้ายดังกล่าว ภายใต้หัวข้อ "การศึกษาเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอในสัตว์ในประเทศไทยกรณีศึกษาเชื้อไวรัสไข้หวัดนกและไข้หวัดใหญ่สุกร" จนได้รับรางวัลผลงานวิจัยระดับดีเยี่ยมจากสภาวิจัยแห่งชาติประจำปี 2555                           "ผมและทีมงานได้ลงมือทำการวิจัยเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2004 หลังไข้หวัดนกเกิดขึ้นครั้งแรก จากนั้นก็ดำเนินการวิจัยอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยตั้งเป้าไว้ 2 ประเด็นคือเพื่อช่วยแก้ปัญหาหยุดยั้งการระบาดและการเฝ้าระวังตรวจติดตามการเปลี่ยนแปลงการติดเชื้อในสัตว์ทั้งในสัตว์ปีกและสุกร ซึ่งพบว่าเชื้อที่เกิดในสัตว์กว่า 80-90 เปอร์เซ็นต์มีโอกาสแพร่กระจายมาสู่คนได้"                           รศ.นสพ.อลงกรเผยต่อว่า หลังจากนั้นในปี 2008 โอกาสได้เข้าไปร่วมทำวิจัยกับกรมปศุสัตว์ พร้อมจัดทำโมเดลต้นแบบทั้งในระดับอุตสาหกรรมและฟาร์มเลี้ยงของเกษตรกร กระทั่งใช้โมเดลเดียวกันนี้เข้าไปแก้ปัญหาและป้องกันในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สุกรในปี 2009 จนประสบความสำเร็จและสามารถหยุดยั้งในการแพร่ระบาดของเชื้ออย่างได้ผล                           สำหรับการต่อยอดผลงานวิจัยชิ้นนี้นั้น เจ้าของรางวัลผลงานเด่นย้ำว่า จะใช้ผลสำเร็จของงานวิจัยชิ้นนี้เป็นรูปแบบหรือโมเดลหลักในการป้องกันและแก้ปัญหาสำหรับโรคอุบัติใหม่ทั้งในคนและในสัตว์ พร้อมกับการรับมือโรคใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย                           ขณะที่ ศ.นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวถึงผลงานการศึกษาเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอในสัตว์ในประเทศไทยกรณีศึกษาเชื้อไวรัสไข้หวัดนกและไข้หวัดใหญ่สุกรของรศ.นสพ.ดร.อลงกร อมรศิลป์และคณะจากภาควิชาสัตวแพทย์สาธารณสุข คณะสัตวแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่า นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่สำหรับวงการวิจัยไทยในการนำผลงานวิจัยมาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีและบังเกิดประโยชน์แก่วงการปศุสัตว์ไทยที่ไม่อาจประเมินค่าได้                           เนื่องจากการเกิดขึ้นและแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอในสัตว์ ทั้งไข้หวัดนกและไข้หวัดใหญ่สุกร รวมทั้งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช 5 เอ็น 1 ซึ่งเกิดการระบาดทั้งในสัตว์ปีก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม รวมทั้งคนด้วยนั้นได้สร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจของชาติอย่างมหาศาล                           "เชื้อไวรัสไข้หวัดสุกรสายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1, เอช 1 เอ็น 2 และ เอช 3 เอ็น 2 ซึ่งทั้งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอในสัตว์และโรคไข้หวัดใหญ่สุกรต่างก็มีความสำคัญ ทั้งในด้านการผลิตสัตว์และการสาธารณสุข ผลงานวิจัยชิ้นนี้ จึงเป็นการสร้างองค์ความรู้ใหม่ การตรวจหา การเฝ้าระวังโรคและการศึกษาวิจัยเชิงลึกที่เกี่ยวกับโรคและเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในสัตว์ในประเทศไทยที่มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่สุกรและไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพื่อนำองค์ความรู้เหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนการป้องกันและควบคุมโรค ตลอดจนเป็นแนวทางในการคัดเลือกวัคซีนป้องกันโรคต่อไป นอกจากนี้ยังเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อตรวจสอบหาโรคอุบัติใหม่และอุบัติซ้ำในสัตว์ได้อีกด้วย" เลขาธิการวช.กล่าวทิ้งท้าย                           สำหรับงานวิจัยชิ้นนี้ได้รับรางวัลผลงานระดับดีเยี่ยมจากสภาวิจัยแห่งชาติประจำปี 2555 โดยเจ้าของผลงานจะได้รับเงินรางวัลจำนวน 2 แสนบาทพร้อมประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติคุณ พร้อมนำมาจัดแสดงให้สาธารณชนได้รับทราบในงานวันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2556 ณ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี วันที่ 2-5 กุมภาพันธ์ศกนี้ด้วย     -------------------- (วิจัย 'ไข้หวัดนก-หวัดใหญ่สุกร' สู่ผลงานระดับดีเยี่ยมสภาวิจัย : โดย...สุรัตน์ อัตตะ)      

No comments:

Post a Comment

Blog Archive