Thursday, April 29, 2010

ปธ.สอบข้อเท็จจริงฯลั่น 2 เม.ย.ชี้มูลคดียึดทรัพย์ได้

ปธ.สอบข้อเท็จจริงฯลั่น 2 เม.ย.ชี้มูลคดียึดทรัพย์ได้

ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวีพ.ต.อ.สุชาติ เผย 2 เม.ย.ประเมินมูลค่าความเสียหายได้ แจงเหตุที่ล่าช้า เพราะเอกสารมาก ขณะที่รมว.ไอซีทีโอดภัยไอทีมีมาก ลุยประชุมอาเซียน–ญี่ปุ่น ว่าด้วยนโยบายความมั่นคงฯ 29 -31 มี.ค.53…29 มี.ค. พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง การแก้สัญญาสัมปทานมือถือและดาวเทียม ตามคำพิพากษาของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า วันที่ 2 เม.ย.53 คณะกรรมการชุดดังกล่าว รวมถึงตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะหารืออีกครั้ง โดยการประชุมครั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะหาข้อสรุปเรื่องวิธีการประเมินมูลค่าความเสียหายได้ หลังจากที่ผ่านมาได้มอบหมายให้ กระทรวงไอซีที,  บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ไปศึกษาว่า มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น ที่ส่งมายังคณะกรรมการฯ อิงตามหลักการทางธุรกิจหรือไม่ปธ.คณะกก.สอบข้อเท็จจริงฯ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ต้องเลื่อนกรอบการสอบข้อเท็จจริง จากกำหนดเดิมภายใน 30 วัน ที่ต้องสรุปได้ภายในเดือนมี.ค.นี้นั้น เนื่องจากเอกสารมีจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลาตรวจสอบตั้งแต่สัญญาเริ่มดำเนินการในปี 2534  โดยที่ผ่านมาได้หารือ 2-3 ครั้งใน 4 ประเด็นหลักคือ 1.เรื่องการแปลงส่วนแบ่งสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต 2.การลดส่วนแบ่งรายได้โทรศัพท์ระบบเติมเงินเหลือ 20% จาก 25% 3.การเปิดโรมมิ่งสัญญาณของบริษัท ดีพีซี และ 4.กรณีสัมปทานดาวเทียม ยิงดาวเทียมไทยคม 4 ไอพีสตาร์ เป็นไปตามสัญญาหรือไม่ พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวอีกว่า ตามความผิดในส่วนของบุคคลนั้น ทางคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงได้ประสานไปยังคณะกรรมการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. เพื่อดูคดีอาญา ขณะที่ไอซีทีจะดูคดีทางแพ่ง เอาผิดด้านวินัยกับบุคคลหรือข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากกระบวนการสิ้นสุด ก็เชื่อว่าสัญญาสัมปทานจะยังคงดำเนินต่อไป ไม่ล้มเหมือนเช่นกรณีไอทีวีอย่างแน่นอนด้านร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กล่าวว่า ไอซีทีจัดการประชุมอาเซียน-ญี่ปุ่น ว่าด้วยนโยบายความมั่นคงปลอดภัยทางสารสนเทศ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 29-31 มี.ค.53 โดยมีเป้าหมายพิจารณาให้ความเห็นชอบส่งกรอบความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่น เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียน-ญี่ปุ่น ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในเดือนพ.ย.53 ณ ประเทศมาเลเซีย ต่อไปรมว.ไอซีที กล่าวว่า ขณะนี้อาชญากรได้ใช้ไอทีและคอมพิวเตอร์กระทำผิดจำนวนมาก อาทิ การฟอกเงิน ดังนั้นการร่วมมือเพื่อทำโครงสร้างที่รองรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยความร่วมมือครั้งนี้ ยังเปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกอาเซียนและญี่ปุ่นได้นำเสนอ พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูล และประสบการณ์ด้านนโยบายความมั่นคงสารสนเทศด้วย


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive