Thursday, May 20, 2010

รอด หรือ ร่วง ทีโอที อินเทอร์เน็ต ภาค 2

รอด หรือ ร่วง ทีโอที อินเทอร์เน็ต ภาค 2

ผุดเพิ่ม ปัญหาอินเทอร์เน็ต “ทีโอที” ใช้อุปกรณ์ต่อพ่วง ควบแอพลิเคชั่นไม่เหมาะสมเชื่อมต่อกับการใช้งานระบบส่วนกลางศูนย์ราชการ ร้อนเจ้ากระทรวงไอซีทีเร่งตรวจสอบ พร้อมแนะทีโอทีเช็คปัญหาก่อนสาง หลังถกด่วนเมื่อช่วงเย็นวานนี้...ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ได้นำเสนอปัญหาความล่าช้าการใช้งานอินเทอร์เน็ตของ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ที่ให้บริการแก่ศูนย์ราชการหลุดบ่อย และล่าช้าไปนั้น เบื้องต้น ทีโอทีได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงประชุมด่วนเมื่อวันที่ 19 เม.ย.2553 ที่ผ่านมา เพื่อหาข้อสรุปเรื่องดังกล่าวแล้ว รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ในอีกด้านที่ต้องกล่าวถึง คือ การใช้งานอย่างไม่เหมาะสมของผู้ใช้งาน ทั้งนี้จะโยนความผิดให้กับทีโอที แต่ผู้เดียวคงไม่ได้ เนื่องจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ทีโอทีจัดวางให้เป็นเพียงอุปกรณ์ส่วนกลางที่จะต้องให้ทุกหน่วยงานเข้ามาเชื่อมต่อ มาตรฐานของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อย่อมส่งผลในภาพรวมของทั้งหมด คุณภาพของสายในการเชื่อมต่อ สิ่งนี้เป็นอีกประการหนึ่งที่มีผลกระทบโดยตรงต่อการใช้งาน อาทิ การเข้าหัวสายอินเตอร์ สามารถเข้าได้ทั้งแบบ A และ B ตามมาตรฐานของ IEEE โดยทั่วไปแล้วสายที่ใช้จะเป็นแบบ B เสมอ หากหน่วยงานใดใช้การเข้าสายอินเทอร์เน็ตผิดไปจากกันจะส่งผลต่อความเร็วอินเทอร์เน็ตประเด็นต่อมาอุปกรณ์ที่นำมาต่อพ่วง อุปกรณ์ที่ใช้ในการต่อพ่วงที่รู้จักกันในชื่อ สวิช อุปกรณ์ชนิดนี้มีความเร็วอยู่บนตัวอุปกรณ์ที่ 10 Mbps 100 Mbps 1000 Mbps และ 10Gbs อุปกรณ์ที่เป็นระดับใช้งานอุตสาหกรรมจะมีระบบแยกส่วน และบริหารความเร็วให้เหมาะสมในแต่พอร์ท ที่เป็นไปตามมาตรฐาน หากหน่วยงานใดในศูนย์ราชการใช้อุปกรณ์ที่ไม่เป็นมาตรฐานที่ IEEE กำหนด จะทำให้ความเร็วลดลงไปที่ความเร็วต่ำสุดของอุปกรณ์นั้นๆ โดยมากจะเกิดกับอุปกรณ์ที่ชื่อว่าฮับ หรือ สวิช รุ่นเก่าๆ ประเด็นสุดท้ายที่จะต้องกล่าวถึง คือ การใช้งานอย่างไม่เหมาะสมของผู้ใช้งาน แอพลิเคชั่นที่ก่อนให้เกิดปัญหาสูงสุด คือ การใช้การเปิดบิททอเรนท์ คือการเปิดเครื่องเพื่อดึงข้อมูลที่ต้องการจากสังคมออนไลน์อย่าง ภาพยนตร์ เพลง สิ่งเหล่านี้เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์โดยตรง และเป็นการใช้พื้นที่บนเครือข่ายจำนวนมหาศาล เนื่องจากในการทำงานจะจองพื้นที่บนเครื่อข่ายไว้ โดยไม่สามารถให้ใครมาใช้งานร่วมได้ เท่ากับว่า ถ้าทีโอที กำหนดขนาดการให้บริการของแต่ละหน่วยงานไว้ที่ 200 Mbps แล้ว โปรแกรมดังกล่าวใช้งานไป 60Mbps ย่อมส่งผลความล่าช้าต่อภาพรวมของหน่วยงานนั้นๆ การเล่นเกมส์ออนไลน์ และการใช้ยูทูบ การเข้าชมวิดีโอสตรีมมิ่ง ในเวลาทำงานย่อมส่งผลข้างเคียงต่อระบบการใช้งานเช่นกัน ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวเท่ากับว่าเป็นการทำการทุจริต โดยใช้ทรัพยากรของทางราชการไปในเรื่องส่วนตัว เจ้ากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที คงต้องลงไปดำเนินตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจังจากที่กล่าวมา ทีโอที ควรที่จะตรวจสอบ วิธีการใช้งานของผู้อยู่ในอาคารศูนย์ราชการ เครื่องมือเหล่านี้ ทางทีโอที ได้มีการซื้อจัดหาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหาข้อสรุปว่า เกิดปัญหาจากส่วนใด จะได้ดำเนินการแก้ไขให้ตรงจุดมากกว่าการจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติม โดยใช้งบประมาณไม่เหมาะสม ตามที่บางหน่วยงานได้นำเสนอในที่ประชุมล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 เม.ย.2553 ที่ผ่านมา


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive