Monday, February 4, 2013

อีริคสัน-ควอลคอมม์ พัฒนาชิปเซ็ตสมาร์ทโฟน ประหยัดพลังงาน

อีริคสัน-ควอลคอมม์ พัฒนาชิปเซ็ตสมาร์ทโฟน ประหยัดพลังงาน
อีริคสัน และ ควอลคอมม์ พัฒนาชิปเซ็ตร่วมกับซอฟต์แวร์บนเครือข่าย เพื่อลดปริมาณการส่งสัญญาณของสมาร์ทโฟนที่ไม่จำเป็นบนเครือข่าย ผู้ใช้งานสามารถใช้สมาร์ทโฟนได้รวดเร็วขึ้น และช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่... ในปัจจุบัน การใช้โทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นต่างๆนั้นได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้น และปริมาณการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนี้เอง ได้ก่อให้เกิดผลกระทบด้านสมรรถนะของเครือข่ายมือถืออย่างมาก เนื่องจากปริมาณการส่งสัญญาณของสมาร์ทโฟน ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตามปริมาณการใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆนั้นเอง เพื่อรับมือกับปัญหานี้ อีริคสันได้ร่วมกับ ควอลคอมม์ เทคโนโลยีส์ อิงค์ ที่เป็นบริษัทลูกของควอลคอมม์ อินคอร์ปอเรเต็ด (QTI) วิจัยและพัฒนาจนประสบความสำเร็จเป็นเจ้าแรกของโลก ในการใช่ชิปเซ็ตร่วมกับซอฟต์แวร์บนเครือข่ายมือถือ ให้ใช้ฟังก์ชันใหม่ๆ สำหรับรองรับมาตรฐานการใช้งานเครือข่ายสากลของ 3GPP คือ HS FACH, E-FACH และ UE DRX โดยฟังก์ชันใหม่ๆ จะช่วยลด ปริมาณการส่งสัญญาณของสมาร์ทโฟน ในระบบ และที่สำคัญจะช่วยลดการใช้พลังงานในอุปกรณ์ลูกข่าย หรือโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน และเพิ่มสมรรถนะในการใช้งานของผู้ใช้อีกด้วย นายสเตร์ช วีลีนิคเกอร์ รองประธานฝ่าย Product Management ของ QTI กล่าวว่า นี่เป็นความสำเร็จครั้งสำคัญสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนทั่วโลก ความสำเร็จของชิปเซ็ต MSM8960 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ QTI ในการสร้างสรรค์ เทคโนโลยีระดับสูงเพื่อผู้ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนอย่างแท้จริง เนื่องจากฟีเจอร์ใหม่ๆนี้สามารถใช้งานได้ผ่านระบบซอฟต์แวร์ของเครือข่าย ดังนั้นชิปเซ็ตรุ่นอื่นๆ ที่สามารถรองรับ ระบบ HSPA+ R8 ของเรา ก็จะสามารถรองรับฟีเจอร์เหล่านี้ได้อีกด้วย ความร่วมมือกับอีริคสันในครั้งนี้ช่วยสร้างแรงผลักดันในตลาด และทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งสำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายและผู้ใช้ เมื่อฟีเจอร์เหล่านี้เริ่มมีการใช้งานจริงได้ในเชิงพาณิชย์ บนชิปเซ็ตของ QTI ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ปัญหาเรื่องปริมาณการส่งสัญญาณก็จะเริ่มลดลง และผู้ใช้สมาร์ทโฟนก็จะสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานยิ่งขึ้นด้าน นายนิว วีเลอน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณท์เครือข่าย ของอีริคสัน กล่าวว่า จาก การวิเคราะห์ในห้องทดลองสมาร์ทโฟนของเราพบว่า ภายในเครือข่ายของลูกค้ามักเต็มไปด้วย สัญญาณข้อมูลขนาดเล็กๆจำนวนมาก ที่ถูกส่งจากแอพพลิเคชั่นต่างๆ การพัฒนาฟังก์ชันนี้ผ่านระบบเครือข่ายของเรานั้นจะช่วยให้ผู้ให้บริการ เครือข่ายสามารถบริหารจัดการ ปริมาณสัญญาณดาต้าข้อมูลต่างๆบนเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย การทำงานร่วมกับ Qualcomm Technologies ในการนำฟีเจอร์เหล่านี้ มาสู่ตลาด เป็นก้าวสำคัญในการผลักดันทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากการใช้สมาร์ทโฟนได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วในปัจจุบันผอ.ฝ่ายพัฒนาฯ อีริคสัน กล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่าภายในเครือข่ายมือถือ มีแนวโน้มในการใช้ สัญญาณข้อมูล ที่มีขนาดเล็กลง และมีจำนวนมากขึ้น เนื่องจากการใช้แอพพลิเคชั่น และบริการ push services เช่น instant messaging และโซเชียลมีเดีย มากกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ของ สัญญาณดาต้าข้อมูล ในเครือข่ายมีขนาดน้อยกว่าหนึ่งกิโลไบต์ ฟังก์ชัน HS FACH จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในขณะ downlink และ ฟังก์ชัน E-FACH จะช่วยในส่วน uplink โดยเฉพาะ uplink นั้น มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการใช้แอพพลิเคชั่นโซเชียลเน็ตเวิร์กทั้งหลาย การใช้ฟีเจอร์ทั้งสองนี้ร่วมกันจะช่วยลดปริมาณสัญญาณ  เพิ่มความจุของช่องสัญญาณ รวมทั้งช่วยเพิ่มความเร็วสำหรับผู้ใช้งานได้ ส่วน ฟังก์ชัน UE DRX เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ ทั้งนี้ฟังก์ชันทั้งสามนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วขึ้น 2-4 เท่า เมื่อเทียบกับการใช้งานในปัจจุบัน.

No comments:

Post a Comment

Blog Archive