Thursday, February 7, 2013

เผยรายได้ USO เกินเป้า เล็งปรับค่าธรรมเนียมลง

เผยรายได้ USO เกินเป้า เล็งปรับค่าธรรมเนียมลง
“พล.อ สุกิจ ขมะสุนทร” เผยผลจัดเก็บรายได้บริการโทรคมนาคมพื้นฐานและบริการเพื่อสังคมเกินเป้าที่ตั้งไว้ เล็งปรับค่าธรรมเนียมลงจาก 3.75% คาดออกประชาพิจารณ์ช่วง มี.ค.56...เมื่อวันที่ 7 ก.พ. พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร คณะอนุกรรมการกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (USO) แถลงผลการดำเนินงานการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานและบริการเพื่อสังคม (USO) ปี 2555/2556 ว่า ผลการจัดเก็บรายได้เข้ากองทุนฯ ประจำปี 2555 (รวมงวด 1-2/2555) ณ วันที่ 31 ม.ค.2556 จำนวน 2,720 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ จำนวน 532 ล้านบาท และคาดว่าภายใน 5 ปี จะสามารถเก็บรายได้ 2 หมื่นล้านบาทคณะอนุกรรมการ USO กล่าวต่อว่า ตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดเก็บรายได้เพื่อนำไปใช้ในการจัดให้มีบริการ USO ลงวันที่ 29 พ.ค.2555 กำหนดให้ผู้รับอนุญาตทุกรายมีหน้าที่ในการสรรหารายได้จากการให้บริการกองทุนฯ ในอัตรา 3.75% ของรายได้ต่อปี โดยต้องนำส่งรายได้เข้ากองทุนฯ ปีละ 2 ครั้ง งวดแรก ภายในวันที่ 31 ก.ค. และงวดที่ 2 ภายในวันที่ 31 ม.ค. ของทุกปีจะปรับปรุงหลักเกณฑ์เรียกเก็บ USO โดยให้สำนักงานจัดทำหลักเกณฑ์ใหม่ เพื่อเก็บค่าธรรมเนียมที่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการทุกขนาด ซึ่งต้องมีการมาหารือกัน จะเห็นได้ว่ามีการจัดเก็บที่เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ดังนั้นผู้ประกอบการรายเล็กค่อนข้างมีผลกระทบ ดังนั้น อาจมีการปรับค่าธรรมเนียมลดลงจาก 3.75% โดยตอนนี้อยู่ในั้นตอนการหารือ และเสนอเข้าสู่ บอร์ด กทค.ต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถออกประชาพิจารณ์ช่วง มี.ค.นี้ พล.อ สุกิจ กล่าวนอกจากนี้ ยังจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแก่หน่วยงานและกลุ่มเป้าหมายทางสังคมครอบคลุมทั้งประเทศภายใน 5 ปี โดยใช้การประกวดราคาและใช้เงินกองทุนฯ ที่ผู้รับใบอนุญาตที่มีภาระ USO จ่ายเข้าสมทบในกองทุนฯ มาสนับผู้ชนะการประกวดราคาที่เสนอขอรับการสนับสนุนจำนวนต่ำสุดเป็นสำคัญ ซึ่งจะเป็นการประกวดราคาครั้งแรกของไทย ทาง กสทช.จึงมีข้อตกลงร่วมกันกับไอทียู ให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาเป็นที่ปรึกษาในการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการจัดให้มีบริการ USO ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการประกวดราคาได้ภายในปี 2557สำหรับการดำเนินการที่ผ่านมา ประกอบด้วย 1.จัดให้มีบริการ USO ระยะที่ 2 ตามแผนปฏิบัติการประจำปี 2553 เน้นกระจายบริการโทรคมนาคมพื้นฐานให้ครอบคลุม โดยขยายบริการโทรศัพท์สาธารณะในสถานศึกษา ศาสนสถานและสถานพยาบาล จำนวน 2,359 เลขหมาย 2.ดำเนินการให้ถ่ายทอดการสื่อสารสำหรับผู้ที่บกพร่องทางการได้ยินและการพูด ซึ่ง กสทช. สนับสนุนเงิน 49 ล้านบาท 3.พัฒนาเครือข่ายสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษาไปสู่โรงเรียนวังไกลกังวลและโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ได้สนับสนุนจำนวน 59 ล้านบาท 4.ดำเนินการต้นแบบศูนย์ทางไกลเพื่อการศึกษาและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดนภาคใต้ โดยสนับสนุนเงินจำนวน 74 ล้านบาท มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ 70 โรงเรียน และ 5.จัดให้มีบริการ USO ตามแผนการจัดการ พ.ศ.2555-2559 ได้แก่ การจัดให้มีบริการสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่/หรือโทรศัพท์สาธารณะประจำหมู่บ้าน บริการวงจรเชื่อมโยงความเร็วสูงผ่านสายใยแก้วนำแสงเชื่อมต่อระหว่างตำบลนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ในฐานะกรรมการและเลขานุการกองทุน USO กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2556 มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการยื่นขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนเงินกองทุนฯ ประจำปี 2556 จากเดิมที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. 2556 จนถึงวันที่ 31 ม.ค.2556 เป็นเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. 2556 จนถึงวันที่ 28 ก.พ. 2556 เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้สนใจมีโอกาสเข้ามาขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนเงินจากกองทุนฯอย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค.-วันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ยื่นขอรับการส่งเสริมและสนับสนุน เข้ามาแล้วจำนวน 33 โครงการ รวมเป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 453.95 ล้านบาท ซึ่งหากแบ่งตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 จะพบว่ามี 6 โครงการ ที่ยื่นขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนตามวัตถุประสงค์ มาตรา 52 (1)  มี 17 โครงการ ที่ยื่นขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนตามวัตถุประสงค์ มาตรา 52 (2)  มี 8 โครงการ ที่ยื่นขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนตามวัตถุประสงค์ มาตรา 52 (3)  และมี 2 โครงการ ที่ยื่นขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนตามวัตถุประสงค์ มาตรา 52 (4).

No comments:

Post a Comment

Blog Archive