Saturday, March 20, 2010

จี้แปรสัมปทานเสร็จก่อนประมูล3จีห่วงรัฐสูญรายได้

จี้แปรสัมปทานเสร็จก่อนประมูล3จีห่วงรัฐสูญรายได้



คมชัดลึก : คลังล้างไพ่ธุรกิจโทรคมนาคม เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม ชี้ต้องแปรสัมปทานให้เสร็จก่อนเดินหน้าเปิดประมูลใบอนุญาต 3 จี รับ กทช.เป็นองค์กรอิสระ แต่ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ ห่วงรัฐสูญเสียรายได้ เล็งงัดภาษีสรรพสามิตมาใช้หากหาทางออกไม่ได้ แม้มองไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก






 นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทช.) จะเปิดประมูลใบอนุญาตโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 หรือ 3 จี ก็ต้องเป็นไปภายใต้เงื่อนไขที่กระทรวงการคลังได้ร่างหลักเกณฑ์แปรสัมปทานให้เสร็จสิ้นในเร็วๆ นี้ เพื่อล้างไพ่ให้การแข่งขันในธุรกิจโทรคมนาคมเกิดความเป็นธรรมและเสมอภาคแก่ผู้ประกอบการทั้งรายเก่าและรายใหม่ และแม้ว่า กทช.จะเป็นองค์กรอิสระ แต่ก็ต้องไม่เป็นอิสระจากผลประโยชน์ของประเทศชาติ
 "รัฐบาลก็ต้องการให้เดินหน้าโครงการ 3 จี โดยเร็ว แต่ต้องอยู่ใต้การแข่งขันที่เป็นธรรม และแนวคิดของรัฐบาลก็เพื่อสังคมส่วนรวมได้ประโยชน์สูงสุด หาก กทช.เดินหน้าก็ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ว่า รายได้ที่ปัจจุบันอยู่ในรูปสัญญาสัมปทาน ซึ่งเอกชนจ่ายให้รัฐกว่า 20-30% หากเปลี่ยนเป็น 3 จีแล้ว รัฐได้รับส่วนแบ่งเพียง 2-2.5% เงินรายได้สูญไปหลักแสนล้านจะทำอย่างไร" นายกรณ์กล่าว และว่า สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการคือ จะหาวิธีแปรสัญญาสัมปทานอย่างไรก่อนประมูล 3 จี ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง บมจ.ทีโอที และ กทช. ไม่ยอมแก้ปมปัญหาต้นเรื่องก่อนที่จะเริ่มเรื่องใหม่จึงทำให้เรื้อรังมาจนถึงปัจจุบัน
 อย่างไรก็ตาม หากยังไม่สามารถหาทางออกของการแก้ไขสัญญาสัมปทานได้ คลังก็พร้อมจะนำระบบการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตกิจการโทรคมนาคมมาใช้ใหม่ แม้จะยอมรับว่าแนวทางดังกล่าวไม่ใช่แนวทางที่อยากจะดำเนินการ และไม่ใช่ทางเลือกและการแก้ไขปัญหาที่ดี
 ส่วนประเด็นการค้ำประกันเงินกู้แก่ บมจ.ทีโอทีนั้น กระทรวงการคลังพร้อมจะสนับสนุนการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ รวมถึงการค้ำประกันเงินกู้ให้ กรณีที่การลงทุนนั้นได้ก่อให้เกิดสาธารณประโยชน์ และไม่มีผลในเชิงพาณิชย์ ซึ่งกรณีการเสนอขอค้ำประกันเงินกู้โครงการลงทุน 3 จีของบริษัททีโอทีต่อกระทรวงการคลังนั้น ก็จะเข้าข่ายเป็นการลงทุนเชิงพาณิชย์ หากคาดว่าการลงทุนจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้จริง ทีโอทีก็ต้องสามารถกู้ยืมได้ด้วยตัวเอง
 ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเมื่อปี 2543 รัฐบาลที่นำโดยพรรคประชาธิปัตย์ พยายามจะแปรสัญญาสัมปทาน แต่มีการเตะถ่วงมาโดยตลอด จนมาถึงรัฐบาลต่อมาก็ยังไม่ดำเนินการ ทั้งยังไปแก้ไขสัญญาสัมปทานที่เอื้อต่อบริษัทเอกชนคู่สัญญา ซึ่งกรณีนี้มีความชัดเจนเป็นอย่างยิ่งที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตีความมาแล้วว่าขัดต่อกฎหมายและ พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2535 อย่างชัดเจน








ข่าวที่เกี่ยวข้องพนักงาน"ทีโอที"แห่ซื้อซิม3จีแก้สัญญาสื่อสารสูญรัฐ2แสนล.ครม.เบรก3จี "อภิสิทธิ์"สั่งชะลอสร้างโครงข่าย3จีของทีโอที สารพันไอทีประจำวันที่15พ.ย. ออมเนีย2จอใหญ่ได้เปรียบ

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive