Tuesday, March 16, 2010

ดีแทคทุ่ม 850ล.ตั้งศูนย์ควบคุมรับมือลูกค้าปี53

ดีแทคทุ่ม 850ล.ตั้งศูนย์ควบคุมรับมือลูกค้าปี53

นายทอเร่ จอห์นเซ่นปธ.เจ้าหน้าที่บริหารเผยเทงบกว่า 850 ล้านบาท ใช้ระบบบริหารจัดการติดตั้งไว้ที่ศูนย์ควบคุมและปฏิบัติการ หวังแก้ปัญหา ลดต้นทุน และรองรับเทคโนโลยี3จี ปี53... นายทอเร่ จอห์นเซ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ดีแทคเตรียมการเกี่ยวกับระบบบริหารจัดการ ดูแล และเฝ้าระวังการทำงานของโครงข่ายเพื่อให้ครบวงจร และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลง และทันสมัย ยิ่งไปกว่านั้นคือระบบดังกล่าวจะช่วยป้องกันปัญหาต่างๆ ของลูกค้า อีกทั้ง ยังช่วยพัฒนาบุคลากรของดีแทคเอง ทั้งนี้ โซลูชั่นดังกล่าวประกอบด้วยเซ็ทของแอพลิเคชันที่ช่วยดูแล และพัฒนาคุณภาพของการให้บริการให้มีประสิทธิภาพเพิ่มสูงขึ้นปธ.เจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค กล่าวต่อว่า ดีแทคใช้งบประมาณกว่า 850 ล้านบาท นำระบบ dSmart Solution ของเอชพีเข้ามาใช้งานเพื่อบริหารจัดการ โดยติดตั้งไว้ที่ศูนย์ควบคุม หรือ SOC (Service Operation Center) และปฏิบัติการของดีแทค ที่เกิดขึ้นจากการรวมศูนย์การดูแลเครือข่าย 5 แห่งเข้าไว้ที่นี่เพียงแห่งเดียว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนเครือข่าย รวมถึงปัญหาต่างๆ ทั้งที่มาจากข้อผิดพลาดของระบบไอที ข้อบกพร่องของระบบเครือข่าย หรือแม้กระทั่งคำร้องเรียนของผู้ใช้บริการได้จากหน้าจอแบบเรียล-ไทม์ โดยตัวระบบจะมีเครื่องมือ ที่จะช่วยประเมินหาที่มา และฐานรากของปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้การแก้ปัญหาสามารถทำได้เร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถลดระยะเวลาการขัดข้องของระบบ และผลกระทบที่จะมีต่อผู้ใช้งานลงอีกด้วย“ระบบดังกล่าวจะเป็นตัวเสริมการรองรับเทคโนโลยี 3จี ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นในปี2553  อีกทั้ง ยังสามารถช่วยให้องค์กรลดต้นทุนระยะยาวด้วย อย่างไรก็ตาม หากได้รับรู้ปัญหา และความต้องการของลูกค้าเร็ว ก็จะทำให้เข้าปรับปรุงแก้ไข และให้บริการลูกค้าได้เร็วขึ้นตามมา โดยตั้งเป้าในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบเครือข่ายให้เร็วขึ้นจากเดิมไว้ที่ 50% และป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นได้ล่วงหน้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเราในการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า” นายทอเร่ กล่าว ปธ.เจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค กล่าวอีกว่า การลงทุนดังกล่าว ถือเป็นการลงทุนระยะยาว โดยมีเป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลลูกค้า ลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายในองค์กร และในที่สุดจะกลายเป็นกลยุทธ์หลักในการแข่งขันที่จะรักษาลูกค้าให้อยู่กับระบบได้นานที่สุด อีกทั้ง กลายเป็นจุดแข็งที่สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม การลงทุนด้วยงบประมาณ 850 ล้านบาทนี้ แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 เฟต โดยเบื่องต้นคาดว่า เฟตแรกจะดำเนินการติดตั้งระบบไม่เกินไตรมาส 2 ของปี 2553 ส่วนเฟต 2 จะเป็นการเพิ่มฟังก์ชั่น และลูกเล่น นับเป็นการต่อยอดเฟตแรกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive