Tuesday, March 16, 2010

กทช. ยันไม่ได้สั่งปิด PTV พร้อมร่วมมือรัฐ

กทช. ยันไม่ได้สั่งปิด PTV พร้อมร่วมมือรัฐ

กทช.ยังไม่ได้สั่งปิด PTV และพร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการดูแลรักษาความสงบของบ้านเมือง กรณีชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง...ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดสถานการณ์การชุมชนุมทางการเมืองของประชาชนกลุ่มนปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เรียกร้องกดดันให้รัฐบาลทำการยุบสภาผู้แทนราษฎร และจัดให้เลือกตั้งใหม่ ที่มีความล่อแหลมจะเกิดความขัดแย้ง หรือเหตุการณ์รุนแรงได้  จนรัฐบาลได้ออกประกาศกำหนดให้กรุงเทพฯและปริมณฑล เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในแห่งราชอาณาจักร ตามพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 และกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ และมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายอื่นๆ รวม 18 ฉบับ  อันรวมถึงกฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคมด้วยนั้นนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ รักษาการเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือกทช. กล่าวว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวลือแพร่สะพัดทางสื่อต่างๆ ว่า กทช.ได้สั่งปิดสถานีโทรทัศน์ People TV (PTV) เนื่องจากการที่แกนนำนปช. ได้นำเทปคำพูดนายกรัฐมนตรีที่มีการระบุว่า มีการตัดต่อข้อความมาเปิดในเวทีปราศรัย เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งหรือสถานการณ์ความรุนแรงได้  กทช.เป็นห่วงสถานการณ์โดยเฉพาะกระแสข่าวลือดังกล่าว ที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด และนำไปสู่ความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้นโดยไม่จำเป็นรักษาการเลขาฯ กทช. กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว กทช.ขอยืนยันว่า ยังไม่ได้สั่งปิดสถานีโทรทัศน์ PTV และขอเรียนชี้แจงทำความเข้าใจที่ถูกต้องชัดเจนแก่พี่น้องประชาชน เพื่อมิให้เกิดความตื่นตระหนก หลงเชื่อต่อข่าวลือ หรือคำยุยงปลุกปั่นของผู้ไม่หวังดีว่า กทช.ในฐานะองค์กรกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม ตามพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2543 จึงมีหน้าที่ในการช่วยเหลือสนับสนุนการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ตามที่ได้รับการร้องขอจากศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) และ กทช. ในฐานะหน่วยงานธุรการ ได้จัดเตรียมความพร้อมเพื่อสนองตอบในการปฏิบัติงานรักษาความมั่นคงภายในตามกฎหมายอย่างเต็มที่ โดยดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้ว  ดังนี้1.การปฏิบัติการตามพ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 กทช. มีหนังสือขอความร่วมมือสมาคมวิทยุสมัครเล่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิสาธารณกุศล ศูนย์วิทยุรถรับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่) ให้การสนับสนุนการปฏิบัติของ ศอ.รส.2.การปฏิบัติการตามพ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544  กทช.มีหนังสือขอความร่วมมือผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม ซึ่งได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์ประจำที่ (บ้าน) และโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกราย ให้ติดตามตรวจสอบ และเฝ้าระวังการใช้บริการของผู้ใช้บริการ ที่อาจอาศัยช่องทางบริการในลักษณะที่ส่งผ่าน หรือเผยแพร่ข้อมูลที่อาจเข้าข่ายการดำเนินการที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ พร้อมกันนี้ได้เรียกผู้ประกอบการดังกล่าว มาชี้แจงและซักซ้อมความเข้าใจด้วยแล้ว3.การปฏิบัติตามพ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 กทช.ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ได้ดำเนินการแจ้งเตือนและขอความร่วมมือ พร้อมทั้งเฝ้าระวัง โดยให้ผู้ทดลองออกอากาศในลักษณะชั่วคราวของวิทยุกระจายเสียงชุมชน จำนวน 6,638 สถานี ผู้ดำเนินการให้บริการ หรือแพร่ภาพกระจายเสียงชั่วคราวในกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ จำนวน 387 สถานี โดยมิให้ดำเนินการกระจายเสียงที่มีเนื้อหาขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ยุยง ปลุกระดม ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และให้ดำเนินการบันทึกรายการที่ออกอากาศย้อนหลังจำนวน 30 วัน พรัอมสนับสนุนข้อมูลต่างๆ ต่อเจ้าพนักงานที่เกี่ยวกับความมั่นคงนอกจากนี้ นายฐากร กล่าวด้วยว่า ในการดำเนินการเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของศอ.รส.นั้น กทช.และสำนักงานกทช. ได้เตรียมความพร้อมของบุคลากร ที่จะให้การสนับสนุนการดำเนินการอย่างเต็มที่ตลอด 24ชั่วโมง เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive