Thursday, March 18, 2010

ทูตมะกันชี้เหนือมีศัยภาพสูงด้านไอที

ทูตมะกันชี้เหนือมีศัยภาพสูงด้านไอที



คมชัดลึก : เปิดประชุมนานาชาติ"เศรษฐกิจสร้างสรรค์ภาคเหนือประเทศไทย : โอกาสและความท้าทายในสารเทคโนโลยีสารสนเทศ"ฉลองก้าวสู่ปีที่ 60 สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา ประจำจ.เชียงใหม่ เอกอัคราชทูตอเมริกา ประจำประเทศไทย ชี้ภาคเหนือมีศัยภาพสูงด้านไอที พร้อมดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ด้าน รมช.พาณิชย์ เผยรัฐบาลชูเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ตั้งเป้าภายใน 3 ปีเพิ่มสัดส่วน 1 ใน 5 ของจีดีพี






 นาย เอริค จี.จอห์น เอกอัคราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ"ไอทีและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทย" ระหว่างพิธีเปิดการประชุมนานาชาติ"เศรษฐกิจสร้างสรรค์ภาคเหนือประเทศไทย : โอกาสและความท้าทายในสารเทคโนโลยีสารสนเทศ" จัดโดยสถานกงสุลใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกา ประจำจ.เชียงใหม่  ที่โรงแรมแชงกรี-ลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วันนี้ ( 18 ก.พ.) ว่า   การประชุมนานาชาติครั้งนี้จัดขึ้นในวาระโอกาสเฉลิมฉลองก้าวสู่ปีที่ 60 ของสถานกงสุลใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกา ประจำจ.เชียงใหม่  เพื่อดึงดูดการลงทุนมายังประเทศไทย ซึ่งเศรษฐกิจของภาคเหนือมุ่งเน้นเรื่องการเกษตรและท่องเที่ยว แต่ยังค้นพบภายใต้เศรษฐกิจที่มีความท้าทาย ได้เห็นมุมมองถึงสิ่งที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ในอนาคต
 รัฐบาลแห่งชาติและท้องถิ่นพยายามมุ่งสร้างสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเบ่งบานและทำให้รากฐานของรัฐบาลเข้มแข็ง ภายใต้นโยบายไทยเข็มแข็งและเศรษฐกิจไทยสร้างสรรค์ ประเทศไทยกำลังพัฒนายุทธศาสตร์ที่สำคัญ เช่น สร้างระบบโทรคมนาคมที่ทันสมัย  ผลักดันโทรศัพท์ระบบ 3 จี ยกระดับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ส่งเสริมธุรกิจให้มีนวัตกรรมสร้างสรรค์ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศโดยมาตรการจูงใจต่างๆ มุ่งหมายให้ระบบไอทีและการลงทุนของประเทศเติบโต
 "ภาคเหนือของประเทศไทยมีการเติบโตทางด้านไอทีสูงมาก  ผมมีโอกาสได้พบกับบุคลากรของมหาวิทยาลัยต่างๆทำให้รู้ว่ายังมีบุคลากรที่มีมันสมองปราดเปลื่องอยู่มากมายในภาคเหนือ โดยเฉพาะด้านไอที ที่มีความสามารถด้านแอนนิเมชั่น สื่อดิจิตอล ซึ่งสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมายังภาคเหนือได"นายเอริค กล่าว
 ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ"วิสัยทัศน์ประเทศไทยในด้านไอทีและเศรษฐกิจสร้างสรรค์"ว่า ในปี 2553 นับว่ามีความสำคัญเพราะข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ อาฟต้า เริ่มต้นอย่างสมบูรณ์ เป็นปีที่มีความท้าทายสำหรับประเทศไทยหลังผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจและเป็นปีที่นโยบายทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างเข้มแข็งภายใต้การบริหารงานของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในปี 2553 - 2555 รัฐบาลจะเพิ่มสัดส่วนความสำคัญของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้ขยายตัว 1 ใน 5 ของจีดีพีประเทศ จึงมีการจัดตั้งคณะกรรมการเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติขึ้นมา มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและมีรัฐมนตรีเกินครึ่งของ ครม.ร่วมเป็นกรรมการ
 รัฐบาลได้ร่างนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ใหม่ขึ้นมา แต่โมเดลของเศรษฐกิจใหม่จะไม่สำเร็จถ้าไม่พัฒนาระบบทรัพยสินทางปัญญา ครม.จึงตั้งคณะกรรมการทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติขึ้น เพื่อปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา เพราะระบบเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นหัวใจสำคัญ  วันนี้ประเทศกำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มีการตั้งเป้าหมายที่ทะเยอทะยานเพราะเศรษฐกิจสร้างสรรค์เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่
 นายอลงกรณ์ กล่าวว่า คณกรรมการเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ มีคณะกรรมการทำหน้าที่กำกับดูแลการดำเนินนโยบาย โดยมีเป้าหมายภายใน 3 ปีจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีความเข้มแข็ง แม้วันนี้รัฐบาลจะนำประเทศพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจแล้วแต่ยังไม่พ้นจากวิกฤตการเมืองซึ่งต้องพยายามต่อไป ในแนวนโยบายของรัฐบาลมีเป้าหมายขยายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้ได้สัดส่วน 20% ของจีดีพีภาในปี 2555  และนโยบายดังกล่าวจะเป็นตัวขับลเคลื่อนให้เป็นประเทศเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในอาเซียน
 "ในเดือน ธ.ค. 2553 ประเทศไทยเตรียมจัดประชุมเวิร์ล อีโคโนมิค ฟอรั่ม เป็นประเทศแรกของโลก ภายใต้การสนับสนุนของหน่วยงานต่างๆ เพื่อสร้างโอกาสส่งเสริมจีดีพีให้เติบโต ส่งเสริมวิถีชีวิต คุณภาพชีวิต และภายใต้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ รัฐบาลมีเป้าหมายผลักดันใน 3 - 4 ด้าน คือ คลีเอทีฟอินฟาสตรัคเจอร์  คลีเอทีฟเอ็ดดูเคชั่น คลีเอทีฟวิซิส แอนด์ อินเวสเม้นท์ และสุดท้ายคือการขับเคลื่อนทั้ง 3 เรื่องไปสู่เป้าหมาย"นายอลงกรณ์กล่าว
 นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ในเดือน พ.ค.นี้จะเป็นครั้งแรกที่มีตำราเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และทรัพย์สินทางปัญญา เป็นแบบเรียนเพื่อรองรับการสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศในอนาคต ขณะนี้พัฒนาหลักสูตรเสร็จแล้วและเตรียมทดสอบกับ 40 โรงเรียนทั่วประเทศ โดยเน้นเป้าหมายเด็กและเยาวชน สำหรับคลีเอทีฟอินเวสเม้นท์ส่วนหนึ่งมีเป้าหมายส่งเสริมให้เกิดโครงการเชียงใหม่วู้ด ซึ่งเป็นการลงทุนของบริษัท คลีเอทีฟคิงดอม  ที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาภาคเหนือของประเทศไทย 
 ทั้งนี้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจาก 3 ส่วน ทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน และความร่วมมือระหว่างประเทศ จึงจะเป็นกุญแจสำคัญก้าวสู่ความสำเร็จ ซึ่งในปี 2553 เป็นปีเริ่มต้นทรรศวรรตใหม่ของอาเซียน รัฐบาลจึงมอบหมายให้บีโอไอจัดทำแผนการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมและไอทีเป็นหนึ่งในเป้าหมายการส่งเสริม  ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญและพร้อมให้การส่งเสริมอย่างเต็มที่
 รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า ในการประชุมนานาชาติครั้งนี้ ไม่ปรากฎมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุมต่อต้านหรือขับไล่นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่เดินทางมากล่าวสุนทรพจน์เหมือนเช่นรัฐมนตรีในรัฐบาลที่เดินทางมาและถูกกลุ่มเสื้อแดงในจ.เชียงใหม่ขับไล่มาแล้ว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังวางกำลังรักษาตความปลอดภัยทั้งภายในและด้านหน้าโรงแรมอย่างเข้มงวด








ข่าวที่เกี่ยวข้องวิลเลียมเสด็จออสซี-กีวี พกเสน่ห์มัดใจพสกนิกรไกลบัลลังก์ เอ็มเอฟอีซีบุกตลาดไอทีรับอาฟตาแววขยัน...ไม่ทิ้งแถวเอ็มบีเอสมุทรสาครปั้นผู้บริหารระดับสากลสู่ชุมชน-ท้องถิ่นหาคู่ออนไลน์ยุคล่มสลายของคนโสด

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive